SSP หุ้นพลังงานทดแทนครบวงจร กับอนาคตใหม่วินด์ฟาร์ม หนุนผลงาน 3-5 ปีนิวไฮต่อเนื่อง

บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) หุ้นโรงไฟฟ้าไซส์มินิ ที่มีศักยภาพการเติบโตได้อีกมาก ทั้งในแง่ของรายได้-กำไร ถือเป็นหุ้น Growth Stock ที่น่าจับตามอง กับอนาคตการเติบโตภายใน 3-5 ปีข้างหน้า กับเป้าหมายกำลังการผลิต 400 เมกะวัตต์ ที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวในขณะนี้

"เรายังคงมองหาโอกาสการลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ๆ เพื่อไปสู่เป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้า 400 เมกะวัตต์ ภายใน 3-5 ปี ข้างหน้า จากที่ปัจจุบันขายไฟอยู่ 154 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้งบการเงินโตไปอีกมาก ในขณะที่ธุรกิจเราไม่โดนผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 เพราะสัญญาขายไฟกับรัฐเป็นสัญญาระยะยาวทั้งหมด" นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) กล่าว

โดยภายในเดือนมิถุนายน 2563 โรงไฟฟ้ายามากะ ที่ประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 34.5 เมกะวัตต์ เตรียมขายไฟเข้าระบบในเชิงพาณชย์ จากเดิมคาดภายในเดือนกรกฎาคม 2563 ก่อนกำหนด และถือเป็นตัวแปรสำคัญผลักดันรายได้และกำไรในปี 2563 สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) ในช่วงกลางปี 2560 ก่อนย้ายเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในช่วงต้นปี 2562 ผลประกอบการของ SSP เติบโตอย่างแข็งแกร่ง รายได้และกำไร สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น

โดยในปี (2560-2562) บริษัทฯมีรายได้ 877.11 ล้านบาท 1,137.38 ล้านบาท และ 1,485.56 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 339.83 ล้านบาท 482.03 ล้านบาท และ 545.68 ล้านบาท

ส่วนความคืบหน้าโครงการพลังงานไฟฟ้าพลังงานลมกำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนามตามแผน โดยปัจจุบันบริษัทฯมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) และกำหนดขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในช่วงกลางปี 2564 โดยทุกอย่างเป็นไปตามแผน ไม่มีผลกระทบใดๆจากไวรัสโควิด-19

“ทุกอย่างยังคงเดินหน้าตามแผนสำหรับโครงการวินด์ฟาร์มในเวียดนาม 48 เมกะวัตต์ เรามีกระแสเงินสดเพียงพอสำหรับการขยายการลงทุนทั้งโซลาร์ฟาร์ม วินด์ฟาร์ม เพื่อไปสู่เป้าหมายกำลังการผลิตทะลุ 400 เมกะวัตต์ ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า ผลักดันให้รายได้และกำไรของบริษัทฯสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง”

ขณะเดียวกัน SSP ยังอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เฟส 2 ในประเทศเวียดนามเช่นเดียวกัน รวมถึงเตรียมเข้าลงทุนโครงการโซลาร์รูฟท็อปในประเทศอินโดนีเซีย เบื้องต้นคาดจะมีกำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำการติดตั้งบนหลังคาโรงงาน โดยคาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาสรุปภายในปี 2563 นี้

SSP จึงถือเป็นหุ้นโรงไฟฟ้าไซส์เล็กที่มีความโดดเด่น จากการรุกคืบสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโซลาร์ฟาร์ม วินด์ฟาร์ม หรือโซลาร์รูฟ เรียกได้ว่า “เล็กพริกขี้หนู” ที่มีทั้ง Growth และ Dividend ถือเป็นหุ้นหลุมหลบภัย ในยามเศรษฐกิจผันผวน จากผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี


ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

คุณสุพจน์ อ่อนละมูล(เอ็ม) Mobile 061-7641234 email : [email protected]