ประกาศแจ้งการประมวลผลข้อมูล

ประกาศแจ้งการประมวลผลข้อมูล (Privacy Notice) ของ บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่ม (รวมต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัท”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวและตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงได้จัดทำประกาศแจ้งการประมวลผลข้อมูลฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมตลอดถึงวิธีการจัดการ การลบ และการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในทุกช่องทางตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ดังนี้

1. คำนิยาม

“ท่าน” หมายถึง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ

  • ผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ และตัวแทนของบุคคลดังกล่าว
  • บุคคลผู้เข้าชมเว็บไซด์และผู้ใช้บริการเว็บไซต์
  • ลูกค้า คู่ค้าและผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา
  • ผู้สมัครงาน บุคคลในครอบครัวของผู้สมัครงาน หรือบุคคลอื่นซึ่งผู้สมัครงานได้ให้ข้อมูลไว้
  • กรรมการและผู้บริหาร พนักงาน บุคลากร ลูกจ้าง ตัวแทน และบุคคลอื่นใดที่มีฐานะอย่างเดียวกัน ของ
  • นิติบุคคลและบริษัทในเครือที่เป็นลูกค้าของบริษัท
  • คู่ค้าและผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจซึ่งเป็นนิติบุคคล
  • กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน หรือบุคลากรของบริษัท
  • ผู้เข้าร่วมการอบรม สัมมนา การศึกษาดูงาน กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ หรือกิจกรรมอื่น
  • บุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมและการดำเนินงานต่าง ๆ ของบริษัท

“บริษัท” หมายถึง บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่ม

“บริษัทในกลุ่ม” หมายถึง บริษัทที่จัดตั้งโดยบริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 (ห้าสิบ) ของทุนจดทะเบียนของบริษัท ตามรายชื่อที่ระบุไว้ใน บริษัทย่อยในประเทศไทยและบริษัทย่อยในต่างประเทศ

“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

“ประมวลผล” หมายถึง การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม เช่น การเก็บรวบรวม การบันทึก การจัดระบบ การจัดเก็บ การปรับเปลี่ยนหรือการดัดแปลง การเรียกคืน การปรึกษา การใช้ การเปิดเผย (โดยการส่ง โอน การเผยแพร่หรือการทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใด ๆ) การจัดเรียง การนำมารวมกัน การบล็อกหรือจำกัด การลบหรือการทำลาย

“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

2. รายละเอียดทั่วไป

ประกาศแจ้งการประมวลผลข้อมูล (Privacy Notice) นี้ จัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงรายละเอียดและวิธีการจัดการและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท ได้รับมาจากท่าน วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลของท่าน (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ตลอดจนระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวและสิทธิและทางเลือกต่างๆ ของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนวิธีการติดต่อบริษัทในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย

ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัท ประกอบกิจการในประเทศไทย การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจึงอยู่ภายใต้บังคับและต้องปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย

3. วิธีเก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัท โดยตรง: ท่านอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทโดยตรง กรณีนี้มักเกิดขึ้นเมื่อท่านกรอกแบบฟอร์มต่าง ๆ ผ่านเว็บไซต์บริษัท หรือผ่านช่องทางอื่นที่บริษัทจัดเตรียมไว้ หรือโดยการขอหรือสอบถามจากท่าน หรือขอให้ท่านส่งเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัท เมื่อท่านติดต่อบริษัทเพื่อการใช้บริการ ขอเอกสารเสนองาน ข้อเสนอต่างๆ จากบริษัท เมื่อท่านเข้าทำธุรกรรม หรือทำสัญญากับบริษัท เมื่อท่านส่งมอบเอกสารและสำเนาเอกสารต่าง ๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏอยู่มาให้กับบริษัท หรือเมื่อท่านสอบถามข้อมูล ให้ความเห็น หรือคำติชม หรือส่งข้อร้องเรียนต่อบริษัททางโทรศัพท์ อีเมล์ โทรสาร ทางไปรษณีย์ เป็นต้น
  2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ: บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิคบางอย่างเกี่ยวกับอุปกรณ์ กิจกรรมและรูปแบบการเข้าชม ข้อมูลประวัติการใช้งานเว็บไซต์ (Browsing) ของท่านโดยอัตโนมัติโดยใช้คุกกี้ (Cookies) และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดู นโยบายการใช้คุกกี้
  3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท ได้รับมาจากบุคคลภายนอก: บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลภายนอกเป็นครั้งคราว อาทิ ข้อมูลสาธารณะ บริษัทต้นสังกัดของท่าน พนักงาน หรือผู้ประสานงานแทนของท่าน แหล่งข้อมูลของหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานของรัฐ หรือแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่น่าเชื่อถือซึ่งเปิดเผยสาธารณะ เช่น เว็บไซต์ ข้อมูลที่ค้นหาได้ทางอินเตอร์เน็ต เป็นต้น

ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่ระบุในประกาศแจ้งการประมวลผลข้อมูล (Privacy Notice) นี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ ฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัท จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านเพื่อให้บริษัท สามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้

4. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวมรวบภายใต้คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้ เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในประเภทดังต่อไปนี้

  1. ผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ และตัวแทนของบุคคลดังกล่าว ได้แก่ บุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ถือหุ้น หรือผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัท รวมทั้งในกรณีที่ท่านเป็นผู้รับมอบฉันทะ ผู้รับมอบอำนาจจากบุคคลดังกล่าว 
  2. บุคคลผู้เข้าชมเว็บไซด์และผู้ใช้บริการเว็บไซต์
  3. คู่ค้าและผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา ได้แก่ บุคคลธรรมดาที่จะขายหรือขายสินค้า และ/หรือบริการให้แก่บริษัท หรือเป็นคู่สัญญาหรือมีความเกี่ยวข้องตามสัญญาใด ๆ กับบริษัท ซึ่งหมายความรวมถึง คู่ค้า ผู้ขาย ผู้จัดหา ผู้ให้บริการ ผู้รับทำงาน ที่ปรึกษา และบุคคลอื่น ๆ ในลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นต้น และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของนิติบุคคลซึ่งเป็นคู่ค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน ผู้แทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใด และบุคคลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมระหว่างบริษัท กับนิติบุคคลนั้น เช่น ผู้ประสานงาน ผู้ส่งสินค้า ผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น
  4. ลูกค้า ได้แก่ บุคคลธรรมการที่จะซื้อหรือซื้อสินค้า และ/หรือบริการจากบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นที่ติดต่อสอบถามข้อมูลสินค้า และ/หรือบริการของบริษัท บุคคลที่รับทราบข้อมูลสินค้า และ/หรือบริการผ่านสื่อต่าง ๆ และบุคคลที่ได้รับการโฆษณาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสินค้า และ/หรือบริการของบริษัท  และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้อง หรือเป็นตัวแทนของนิติบุคคลที่เป็นลูกค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน ผู้แทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใด และบุคคลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมระหว่างบริษัท กับนิติบุคคลนั้น เช่น ผู้ประสานงาน ผู้สั่งซื้อ ผู้รับสินค้า ผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น
  5. บุคลากรของบริษัท ได้แก่ บุคคลธรรมดาที่เป็นพนักงาน ลูกจ้าง หรือบุคคลใดที่ทำงานให้แก่บริษัท กรรมการ ผู้จัดการ ผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญและบุคคลที่ได้รับเงินเดือน ค่าจ้าง สวัสดิการ หรือผลตอบแทนอื่นใดโดยตรงจากบริษัท และหมายความรวมถึงบุคคลในครอบครัวของบุคลากรของบริษัท
  6. ผู้สมัครงานได้แก่ บุคคลธรรมดาที่ได้ยื่นใบสมัครหรือรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติส่วนตัวมาที่บริษัท ทั้งที่เป็นลายลักษณ์อักษรหรือวาจา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสมัครงาน/สมัครฝึกงาน เป็นพนักงานหรือลูกจ้าง/ผู้ฝึกงาน ซึ่งยังไม่ได้รับคัดเลือกจากบริษัท และหมายความรวมถึงบุคคลในครอบครัวผู้สมัครงาน และบุคคลอื่นซึ่งผู้สมัครงานได้ให้ข้อมูลไว้
  7. ผู้เข้าร่วมการอบรม สัมมนา การศึกษาดูงาน กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ หรือกิจกรรมอื่น ได้แก่ บุคคลภายนอกผู้เข้าร่วมการอบรม สัมมนา การศึกษาดูงาน กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ กับบริษัท
  8. บุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมและการดำเนินงานต่าง ๆ ของบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและอยู่ภายใต้ประกาศแจ้งการประมวลผลข้อมูล (Privacy Notice) นี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทโดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับมาจากบุคคลภายนอก เช่น

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

  1. ข้อมูลชื่อและชื่อย่อ เช่น คำนำหน้า ชื่อตัว อักษรย่อจากชื่อตัว ชื่อกลาง นามสกุล ข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อ-สกุลลายมือชื่อ
  2. ข้อมูลเกี่บวกับคุณลักษณะของบุคคล เช่น วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ รูปถ่าย ภาพถ่าย สัญชาติ สถานภาพสมรส และข้อมูลบุคคลในครอบครัว
  3. ข้อมูลในการระบุตัวตนที่หน่วยงานภาครัฐออกให้ เช่น หมายเลขและสำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) หรือบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขใบอนุญาตขับรถ หมายเลขทะเบียนยานพาหนะ หมายเลขใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพ หมายเลขทะเบียนคนต่างด่าว รายละเอียดทะเบียนบ้าน หมายเลขประจำตัวผู้ประกันตน / ประกันสังคม หมายเลขประจำตัวอื่นใดที่หน่วย งานภาครัฐออกให้
  4. ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย สำเนาทะเบียนบ้าน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ข้อมูลการติดต่อทางโซเชียลมีเดีย และรายละเอียดบุคคลที่ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน
  5. ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร และข้อมูลเกี่ยวกับภาษีอากรต่าง ๆ
  6. ข้อมูลการติดต่อกับบริษัท เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับวัน เวลา สถานที่ที่ติดต่อกับบริษัท ข้อมูลการบันทึกภาพและหรือเสียงเมื่อมีการติดต่อกับบริษัท เป็นต้น
  7. ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา การฝึกอบรม และการทำงาน เช่น ประวัติการศึกษาและการฝึกอบรม หนังสือรับรองคุณวุฒิหรือใบแสดงผลการศึกษา ผลคะแนนหรือระดับคะแนน ระดับการศึกษา ความสามารถทางภาษา ข้อมูลใบอนุญาตในการประกอบวิชาชีพ เลขที่ทะเบียน วันที่เริ่มอายุทะเบียน วันที่หมดอายุทะเบียน การต่ออายุทะเบียน ข้อมูลการปฏิบัติหน้าที่ วันที่เริ่มงาน ข้อมูลการอบรมและข้อมูลการทดสอบซึ่งจัดโดยบริษัท หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง วุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตร ประวัติการทำงาน เงินเดือนหรือค่าจ้าง
  8. ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท เช่น การลงทะเบียน การบันทึกภาพนิ่ง บันทึกวิดีโอและหรือเสียง หรือภาพเคลื่อนไหวในลักษณะอื่น เป็นต้น
  9. ข้อมูลการเข้าร่วมประชุมระหว่างบริษัท โดยอาจมีการบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และหรือเสียงระหว่างการประชุมดังกล่าว
  10. ข้อมูลที่จำเป็นอื่น ๆ เพื่อการตรวจสอบประวัติ การประเมินความเหมาะสมหรือการพิจารณาความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจเข้าทำธุรกรรม รวมถึงเพื่อการดำเนินคดีหรือการบังคับคดี
  11. ข้อมูลการคัดกรองตามมาตรการป้องกันโรคระบาด
  12. การบันทึกภาพและ/หรือเสียงผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV)   
  13. ข้อมูลด้านเทคนิค อาทิ ข้อมูลการเข้าใช้งานเว็บไซต์และระบบต่าง ๆ ของบริษัท ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) ข้อมูลการติดต่อและสื่อสารระหว่างท่านและผู้ใช้งานรายอื่น ข้อมูลจากการบันทึกการใช้งาน เช่น ตัวระบุอุปกรณ์ หมายเลข IP ของคอมพิวเตอร์ รหัสประจำตัวอุปกรณ์ ประเภทอุปกรณ์ ข้อมูลเครือข่ายมือถือ ข้อมูลการเชื่อมต่อ ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ประเภทของเบราว์เซอร์ (Browser) ข้อมูลบันทึกการเข้าออกระบบ ข้อมูลแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ท่านเข้าถึงก่อนและหลัง (Referring Website) ข้อมูลบันทึกประวัติการใช้ระบบ ข้อมูลบันทึกการเข้าสู่ระบบ (Login Log) ข้อมูลรายการการทำธุรกรรม (Transaction Log) พฤติกรรมการใช้งาน (Customer Behavior) สถิติการเข้าระบบ เวลาที่เยี่ยมชมระบบ (Access Time) ข้อมูลที่ท่านค้นหา การใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ในระบบ และข้อมูลที่บริษัท ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกัน
  14. ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะความชอบ ความสนใจส่วนบุคคล ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ข้อร้องเรียน

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

โดยทั่วไปแล้วบริษัทไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ อย่างไรก็ดีหากบริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเพื่อวัตถุประสงค์ใดๆที่ไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายในการประมวลผลได้ บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่บริษัทอาจะมีการประมวลผล อาทิเช่น

  1. ข้อมูลศาสนา
  2. ข้อมูลประวัติอาชญากรรม
  3. ข้อมูลสุขภาพ ผลการตรวจสุขภาพ ความพิการ
  4. ข้อมูลชีวภาพ เช่น ภาพจำลองลายนิ้วมือ (Finger Scan)

ในกรณีที่บริษัท เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2564 บริษัทจะดำเนินการกับข้อมูลดังกล่าวให้เป็นไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไว้

5. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

5.1 บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ (รวมเรียกว่า “วัตถุประสงค์ที่กำหนด”) และภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้

– เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น

– เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ ประกาศหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินกิจการของบริษัท

  • เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นนอกเหนือไปจากบริษัท
  • เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  • ความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัท เมื่อไม่สามารถอาศัยข้อยกเว้นหรืออ้างอิงฐานทางกฎหมายตามกรณีที่ระบุข้างต้น ทั้งนี้ หากบริษัท ขอความยินยอมเป็นการเฉพาะจากท่านสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ บริษัท จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งและที่ได้รับความยินยอมจากท่าน และบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ในกรณีที่บริษัทสามารถทำได้ตามกฎหมายหรือโดยได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากท่าน

5.2 เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัท จะดำเนินการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดตามข้อ 5.1 ข้างต้นในส่วนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือมีความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญากับท่าน ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัท อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรือบริษัท อาจจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ (แล้วแต่กรณี) ในกรณีดังกล่าว บริษัท อาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกการให้บริการที่เกี่ยวข้องต่อท่าน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

5.3 ในกรณีที่บริษัท จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในวัตถุประสงค์ที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น บริษัทจะจัดให้มีประกาศแจ้งการประมวลผลข้อมูล (Privacy Notice) เพิ่มเติม เพื่ออธิบายการใช้ข้อมูลในวัตถุประสงค์ดังกล่าว ท่านควรอ่านประกาศแจ้งการประมวลผลข้อมูล (Privacy Notice) เพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องดังกล่าวร่วมกับคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่หน่วยงานและบุคคลดังต่อไปนี้

  1. หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมายหน่วยงานราชการ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด ตลอดจนเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจจามกฎหมาย
  2. บริษัทย่อย บริษัทในเครือ และบริษัทในกลุ่ม
  3. พันธมิตร คู่ค้าทางธุรกิจ คู่สัญญา ผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างช่วง ผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ และ/หรือผู้ให้บริการที่เกี่ยวกับการดำเนินงานใดๆ
  4. ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท มอบหมายให้ทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ ให้บริการ หรือบริหารจัดการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ ด้านการพัฒนาปรับปรุง หรือดูแลรักษามาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยของระบบงานและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านระบบการชำระเงิน การตรวจสอบทางบัญชี การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล หรือการให้บริการอื่นใดอันอาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน
  5. บุคคลภายนอกที่ท่านมอบอำนาจ หรือยินยอมให้ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านได้

6.2 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัท จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน

6.3 ในกรณีที่บริษัท เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น บริษัทจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

6.4 ในกรณีที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ บริษัทจะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าบริษัท ได้ส่งหรือโอนไปยังประเทศปลายทาง องค์กรระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศที่มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ในบางกรณี บริษัท อาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

7. ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

7.1 บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ

7.2 บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดและโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติทางธุรกิจสำหรับแต่ละประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล หลังจากระยะเวลาดังกล่าว บริษัทอาจทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเช่นว่านั้นจากการจัดเก็บหรือระบบของบริษัทโดยไม่มีการแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า

8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ หากท่านประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัท ตามรายละเอียดการติดต่อในข้อ 11. (วิธีการติดต่อบริษัท) ด้านล่าง

8.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัท ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัท เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัท ได้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยไม่จำต้องขอความยินยอมจากท่าน เท่าที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาตให้กระทำได้

8.2 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.3 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และบริษัทจะดำเนินการดังกล่าว หากบริษัท

(ก)  อาศัยฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลภายนอก หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทสามารถแสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้อง การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้อง หรือการยกข้อต่อสู้ตามกฎหมาย หรือ

(ข)  ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ของการตลาดแบบตรง

(ค)  ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่เป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท

ในกรณีที่ท่านคัดค้านการประมวลผล โปรดระบุว่าท่านประสงค์ให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือระงับไม่ให้บริษัท ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

8.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านอาจขอให้บริษัท ลบหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีดังต่อไปนี้

(ก) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

(ข) ท่านถอนความยินยอมที่เป็นฐานในการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัท ไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการเก็บรวบรวมหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอีกต่อไป

(ค) ท่านได้คัดค้านการประมวลผลตามข้อ 8.3 หรือ

(ง) เมื่อมีการเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

กรณีที่ระบุไว้ข้างต้นนี้จะไม่นำมาใช้บังคับกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความจำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เพื่อจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือสถิติ เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่อการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับเวชศาสตร์ป้องกันหรืออาชีวเวชศาสตร์ หรือประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้ง ปฏิบัติตาม หรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย

8.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีดังต่อไปนี้

(ก) บริษัท อยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ

(ข) กรณีข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำลายตามข้อ 4 แต่ท่านประสงค์ให้ระงับการใช้แทน

(ค) บริษัทไม่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอีกต่อไป แต่ท่านมีความจำเป็นและขอให้บริษัท เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้อง การปฎิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้อง หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือ

(ง) บริษัท อยู่ในระหว่างการพิสูจน์ตามข้อ 3 (ก) หรือตรวจสอบตามข้อ 8.3 (ค) เพื่อปฏิเสธการคัดค้านของท่านตามข้อ 8

8.6 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง

ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

8.7 สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม

ในกรณีที่บริษัทอาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัท ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความครอบครองของบริษัท

8.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน

หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบริษัท โปรดติดต่อบริษัท โดยใช้รายละเอียดการติดต่อตามข้อ 11. (วิธีการติดต่อบริษัท) ด้านล่าง ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท จะใช้พยายามอย่างเต็มที่ตามความสามารถของระบบที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการตามคำร้องขอของท่านโดยไม่ชักช้า เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่า การดำเนินการตามคำร้องขอนั้นก่อให้เกิดภาระแก่บริษัท เกินสมควร หรือเสี่ยงต่อการละเมิดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือกรณีที่เป็นการพ้นวิสัยในทางปฏิบัติตามคำร้องขอ

9. ความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท ได้มีการจัดทำและ/หรือเลือกใช้ระบบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลให้มีกลไกและเทคนิคที่เหมาะสม และมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของบริษัท เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้ เปิดเผย ทำลาย หรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

10. การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์และบริการของบุคคลภายนอก

การให้บริการของบริษัท อาจมีลิงก์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ผลิตภัณฑ์ และบริการของบุคคลภายนอก ซึ่งบุคคลภายนอกเหล่านั้นอาจเก็บรวบรวมข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับการใช้บริการของท่าน คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้ใช้เฉพาะสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดโดยบริษัท เท่านั้น บริษัท ไม่สามารถรับผิดชอบในความปลอดภัยหรือความเป็นส่วนตัวของข้อมูลใด ๆ ของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมโดยเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของบุคคลภายนอกดังกล่าว แม้ว่าท่านจะกดลิงก์เชื่อมโยงที่ปรากฏบนการให้บริการของบริษัท ก็ตาม ทั้งนี้ ท่านควรใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว/นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ผลิตภัณฑ์ และบริการของบุคคลภายนอกเหล่านั้นด้วย

11. วิธีการติดต่อ

หากท่านมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่กำหนดไว้ในประกาศแจ้งการประมวลผลข้อมูล (Privacy Notice) นี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ โดยใช้รายละเอียดการติดต่อดังต่อไปนี้

  • บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
325/14 ถนนหลานหลวง แขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
  • โทรศัพท์ +66 2 628 0991-2
  • อีเมล์ info@sermsang.co.th

12. กฎหมายที่ใช้บังคับ

ประกาศแจ้งการประมวลผลข้อมูล (Privacy Notice) นี้ อยู่ภายใต้การบังคับและการตีความตามกฎหมายไทย และศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นหรือเกี่ยวข้องกับประกาศแจ้งการประมวลผลข้อมูล (Privacy Notice) นี้

13. การเปลี่ยนแปลงประกาศแจ้งการประมวลผลข้อมูล

บริษัท อาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศแจ้งการประมวลผลข้อมูล (Privacy Notice) นี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง บริษัท จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใด ๆ ด้วยช่องทางที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม บริษัท แนะนำให้ท่านตรวจสอบทบทวนประกาศแจ้งการประมวลผลข้อมูล (Privacy Notice) นี้เป็นครั้งคราว

ให้ประกาศแจ้งการประมวลผลข้อมูล (Privacy Notice) ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568

บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

Scroll to Top